ถ้าเราเชื่อว่า นิชิโนะ คือคนที่ใช่ แฟนบอลชาวไทยต้องอดทน
สมาคมฟุตบอลในยุคของ พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เข้ามาในช่วงที่ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยังคุมทีมชาติไทยอยู่ แต่ด้วยผลงานที่ล้มเหลวกับการที่ไม่ใช่เด็กของผู้ใหญ่ในสมาคมชุดใหม่ จึงทำให้มีการเปลี่ยนแปลงไปใช้ของนอกอย่าง ราเยวัช ซึ่งตอนแรกเหมือนจะดี แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าตั้งแต่ ซูซูกิ คัพ 2018 จนถึง เอเชียน คัพ 2019 นัดแรก ที่พ่าย อินเดีย 1-4 จากนั้นการใช้โค้ชโต่ย ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ก็เหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะเป็นคนไทยและพูดภาษาเดียวกัน แต่ถึงกระนั้นต้องยอมรับว่า โค้ชโต่ย มือยังไม่ถึง จากนั้นสมาคมฟุตบอลก็เริ่มมองหากุนซือใหม่ในขอบข่ายทวีปเอเชีย โดยมีคุณสมบัติ คือ มีความเก่งกาจและนิสัยใจคอเข้ากับคนไทย สุดท้ายจึงไปลงเอยกับ กุนซือชาวญี่ปุ่นอย่าง อากิระ นิชิโนะ ที่ผ่านการคุมในบ้านเกิดมาโชกโชน พร้อมกับเคยพาชาติของตัวเองไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 มาแล้ว
นับจากนี้ไม่กี่วัน ทีมชาติไทยชุดใหญ่ จะลงสนามทำศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ในอีก 3 นัดที่เหลือ ณ ประเทศยูเออี ซึ่งแน่นอนว่าจนถึงตอนนี้มันเป็นเรื่องยากไม่น้อย กับโอกาสที่ทีมชาติไทย จะผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย เพราะก่อนหน้านี้เรามีสะดุดในเกมนัดสำคัญ ทำให้คำถามสำคัญที่แฟนบอลชาวไทยบางส่วนอยากถาม คือ อนาคตของ นิชิโนะ จะเป็นอย่างไร หากทีมชาติไทย ต้องตกรอบ โดยจะให้โอกาสคุมต่อ หรือพิจารณาหาคนที่เหมาะสมมาทำแทน
งานแรกของ นิชิโนะ คือ คุมทีมชาติไทย ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย โดยนัดแรกฝนตกสนามลื่น จึงเสมอกับ เวียดนาม 0-0 จากนั้นบุกไปตบ อินโดนีเซีย 4-0 ชนะยูเออี แบบสะใจ 2-1 ถึงกระนั้นก็ดันไปสะดุดพ่าย มาเลเซีย 2-1 กับ เสมอเวียดนาม 0-0 งานต่อมาลุงโนะ ได้นำทีมไปแข่งซีเกมส์ ในสภาพที่ไม่ค่อยพร้อมเท่าใด ทำให้ท้ายที่สุดตกรอบแรก ถัดมาคุมทีมชาติไทยชุดยู-23 เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ดันไปแพ้ ซาอุดิอาระเบีย เพราะการตัดสินของกรรมการ 0-1
หากดูจากผลงานที่ผ่านมาของ นิชิโนะ ไม่ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่ได้ดีเลิศ ส่วนการเตรียมไปแข่งรอบนี้ต้องเข้าใจว่า ทีมชาติไทย มีอุปสรรคจากโควิด-19 จนไม่สามารถซ้อมและตัดตัวผู้เล่นได้ตามแผน ทำให้การพิจารณาผลงานจากการแข่งขันครั้งนี้ มันคงไม่ยุติธรรมนัก กับ นิชิโนะ นอกจากนี้หากไล่เรียงถึงหน้ากุนซือที่เข้ามาคุมทีมชาติไทย ในรอบทศวรรษที่ผ่าน นิชิโนะ น่าจะเป็นคนที่แฟนบอลชาวไทยอยากจะฝากความหวังไว้มากที่สุด เพราะยี่ห้อญี่ปุ่นเคยสร้างความสำเร็จมานักต่อนักกับสโมสรฟุตบอลในเมืองไทย ฉะนั้นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับทีมชาติไทย คือ ให้โอกาส นิชิโนะ ได้ทำทีมแบบเต็มๆ โดยไม่มีอุปสรรคเข้ามาเกี่ยวสัก 2-3 ปี จากนั้นเราค่อยมาประเมินกันอีกครั้งว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ไม่ใช่ว่าผลงานไม่ดีก็ปลดออกอยู่เรื่อย ซึ่งแบบนั้นจะทำให้ทีมชาติไทย ไม่พัฒนาไปไหน เพราะเราต้องมีเริ่มนับหนึ่งอยู่บ่อยๆ